กฎหมายใหม่ “พ.ร.บ. อากาศสะอาด” จะเปลี่ยนชีวิตและธุรกิจไทยอย่างไร?
ประเทศไทยกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อ “พ.ร.บ. อากาศสะอาด” ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568
นี่ถือเป็นกฎหมายสิ่งแวดล้อมฉบับประวัติศาสตร์ที่เกิดจากแรงผลักดันของภาคประชาชน กว่า 30 องค์กร นำโดย เครือข่าย Thailand Clean Air Network (THCAN) ซึ่งร่วมผลักดันต่อเนื่องมากกว่า 5 ปี
สรุปสถานะล่าสุด
- ร่างกฎหมายอยู่ในขั้นตอน “ผ่านวาระ 3” ที่สภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568
- หลังจากนั้นจะต้องส่งให้ วุฒิสภา พิจารณาภายใน 30 วัน
- คาดการณ์พ.ร.บ. อากาศสะอาดมีผลบังคับใช้ ต้นปี 2569 หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทำไมประเทศไทยถึงต้องมีกฎหมายนี้
- กรุงเทพฯ มี “วันอากาศดี” (AQI ต่ำกว่า 50) เพียง 43 วัน ตลอดทั้งปี ในบางเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ มีช่วงที่คุณภาพอากาศ “ไม่ปลอดภัย” มากกว่า 200 วันต่อปี จากสถิติปี 2024
- องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่า มลพิษทางอากาศทำให้คนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มากกว่า 32,000 คนต่อปี จากโรคหัวใจ ปอด และมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นละเอียด
- คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด” ที่เพิ่งผ่านสภาจะช่วยได้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกฎหมายกรอบที่พูดกว้างเกินไป?
พ.ร.บ. อากาศสะอาด คืออะไร
พ.ร.บ. อากาศสะอาด หรือชื่อเต็มว่า พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ.… มีวัตถุประสงค์เพื่อ คุ้มครองสุขภาพของประชาชน และรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานในการหายใจในอากาศที่สะอาด ปลอดภัย และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 57
เจตนารมณ์ของกฎหมาย คือ “คืนสิทธิการหายใจอากาศสะอาดให้ประชาชน” และสร้างระบบบริหารจัดการคุณภาพอากาศทั้งประเทศ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- รับรองสิทธิของประชาชน
ให้ทุกคนมีสิทธิได้รับอากาศสะอาด และสามารถร้องเรียนหรือฟ้องหน่วยงานรัฐได้เมื่อคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน - จัดตั้งระบบบริหารจัดการคุณภาพอากาศระดับชาติและท้องถิ่น
เช่น คณะกรรมการอากาศสะอาดแห่งชาติ และคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด
เพื่อกำหนดแผนยุทธศาสตร์ มาตรการป้องกัน และระบบเตือนภัยคุณภาพอากาศ - ใช้หลัก “ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย” (Polluter Pays Principle)
ผู้ปล่อยมลพิษเกินเกณฑ์จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายหรือจ่ายค่าชดเชยเข้ากองทุนอากาศสะอาด - ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาดและลดการเผาในที่โล่ง
รวมถึงการสนับสนุนภาคเกษตรให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต เพื่อลดการเกิดฝุ่น PM₂.₅ - บังคับให้หน่วยงานรัฐเปิดเผยข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์
เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและป้องกันตนเองได้อย่างทันท่วงที
ไม่ได้พูดแค่ PM₂.₅ แต่ครอบคลุม “มลพิษทางอากาศทุกชนิด”
พ.ร.บ. นี้ ฉบับนี้ไม่จำกัดเฉพาะ PM₂.₅ แต่นิยามคำว่า “มลพิษทางอากาศ” ครอบคลุมทั้งฝุ่น ก๊าซพิษ กลิ่น และสารเคมีระเหย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือสิ่งแวดล้อม เช่น

กล่าวคือ กฎหมายให้อำนาจรัฐ ออกมาตรฐานคุณภาพอากาศแยกตามสาร และ กำหนดพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพื่อจัดการมลพิษทุกประเภท ไม่ใช่เพียง PM₂.₅ อย่างเดียว
ภาคธุรกิจต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ขนส่ง พลังงาน และเกษตรกรรม จะได้รับผลกระทบโดยตรง
สิ่งที่ธุรกิจควรเริ่มทำตอนนี้คือ
- ตรวจสอบ “จุดปล่อยมลพิษ” ขององค์กร และประเมินว่ามีความเสี่ยงเกินมาตรฐานใหม่หรือไม่
- จัดระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Monitoring) ภายในองค์กร
- ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต หรือใช้เทคโนโลยีลดมลพิษให้สอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมายลำดับรองที่จะออกตามมา
แล้วจะช่วยลดฝุ่นและมลพิษได้จริงไหม?
คำตอบคือ “มีโอกาสมากขึ้น” แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทันที เพราะต้องอาศัย “กฎหมายลำดับรอง” และ “การบังคับใช้ในพื้นที่” สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) คาดว่า หากระบบดำเนินการครบถ้วน จะช่วยลดค่า PM₂.₅ เฉลี่ยได้ 20–30% ภายใน 3 ปี
บทสรุป
“พ.ร.บ. อากาศสะอาด” คือก้าวแรกในการเปลี่ยนสิทธิการหายใจให้เป็นสิทธิทางกฎหมาย
แต่จะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการบังคับใช้จริง และความร่วมมือของทุกภาคส่วน หากรัฐสามารถออกกฎหมายลูก และบังคับใช้กับแหล่งปล่อยหลักได้จริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่ ประเทศไทยมีเครื่องมือทางกฎหมายเฉพาะด้าน อากาศสะอาดอย่างแท้จริง
🌍 ธุรกิจของคุณพร้อมกับกฎหมายใหม่แล้วหรือยัง?
ในยุคที่ “อากาศสะอาด” คือสิทธิของประชาชนและ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” คือภารกิจของโลก Carbonwize คือสะพานเชื่อมระหว่างทั้งสองโลก เราช่วยองค์กรของคุณเปลี่ยนภาระกฎหมายให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ ด้วยแพลตฟอร์มวัดและจัดทำรายงาน GHG พร้อมระบบ MRV แบบอัตโนมัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และบริการให้คำปรึกษาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเตรียมองค์กรสู่ พ.ร.บ.Climate Change และ Clean Air Act
📧 ติดต่อทีมงานคาร์บอนไวซ์: ติดต่อเรา
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- พ.ร.บ. อากาศสะอาด และ พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กฎหมายสองฉบับที่เปลี่ยนเกมธุรกิจไทย
- เมื่อ พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บังคับใช้ จะต้องรายงานคาร์บอนทุกบริษัทเลยหรือเปล่า?
ที่มา: The MATTER, ThaiPBS, Greenpeace, SEI, Parliament.go.th, กรมควบคุมมลพิษ