เปลี่ยนวิกฤตท่องเที่ยวเป็นโอกาส: โรงแรมไทยต้องปรับตัวอย่างไร

เมื่อความไม่แน่นอนกลายเป็น New Normal ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การประเมินความเสี่ยงและการวางแผน "นโยบายด้านความยั่งยืน" จะช่วยให้โรงแรมรอดพ้นวิกฤตได้อย่างไร?
ปี 2568 เป็นปีที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญกับความท้าทายจากหลายด้าน ทั้งความขัดแย้งชายแดน สภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ไปจนถึงเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น แผ่นดินไหวและน้ำท่วม ล้วนส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าทั้งปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอาจหดตัว 2.8% หรือมีจำนวน 34.5 ล้านคน ซึ่งจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปมากถึง 1.62 ล้านล้านบาท
ปัจจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า โรงแรมไม่สามารถพึ่งพา 'ปริมาณนักท่องเที่ยว' เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่ต้องวางรากฐานที่มั่นคงผ่านกลยุทธ์ที่เน้น การประเมินความเสี่ยงและนโยบายความยั่งยืน เพื่อสร้าง 'ความมั่นใจ' ให้กับนักท่องเที่ยว นักลงทุน และพันธมิตรในห่วงโซ่อุปทาน
การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) คืออะไร และเกี่ยวข้องกับความยั่งยืนอย่างไร?
การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) คือกระบวนการสำรวจ วิเคราะห์ และจัดลำดับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ทั้งในแง่ของการดำเนินงาน รายได้ ความน่าเชื่อถือ หรือความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) เช่น ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ ความไม่แน่นอนทางการเมือง กฎหมายใหม่ หรือแม้แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
สำหรับธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2568 ความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ได้แก่:
- ความขัดแย้งตามแนวชายแดน เช่น สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจของนักท่องเที่ยว
- เหตุการณ์ไม่คาดคิดจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวในช่วงกลางปี หรือสถานการณ์น้ำท่วม ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยและการเดินทางได้ทันที
- สภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้การเดินทางระยะไกลหรือเลือกที่พักถูกพิจารณารอบคอบขึ้น
- แรงกดดันจากกฎหมายต่างประเทศ เช่น CSRD ของสหภาพยุโรป ที่ส่งผลต่อโรงแรมไทยในฐานะผู้ให้บริการในห่วงโซ่อุปทาน
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ Gen Z ที่หันมาเลือกโรงแรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
"การประเมินความเสี่ยง" จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการวางแผนด้านความยั่งยืน เพราะช่วยให้โรงแรมมองเห็นจุดเปราะบาง ตัดสินใจเชิงรุก และสร้างแผนรับมือที่มีประสิทธิภาพ
แล้ววันนี้โรงแรมควรจะเริ่มต้นอย่างไร? เมื่อ ‘ความยั่งยืนและการประเมินความเสี่ยง’ กลายเป็นเงื่อนไขทางธุรกิจ ที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน

5 ขั้นตอนเริ่มต้น... สู่ความอย่างยั่งยืน สำหรับโรงแรม
1. สร้างความเข้าใจร่วมกันในทีม
- เริ่มจากผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ ต้องเข้าใจว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ CSR หรือกิจกรรมปลูกป่า แต่ครอบคลุมถึงสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจในระยะยาว
- สร้างการมีส่วนร่วม และชี้ให้เห็นประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น ลดต้นทุนระยะยาว เพิ่มความน่าเชื่อถือ และขยายกลุ่มลูกค้า หากไม่มีการดำเนินการอาจส่งผลต่อการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ เช่น ถูกตัดออกจาก OTA หรือไม่ผ่านการประเมิน ESG จากลูกค้าองค์กร
2. ประเมินสถานะปัจจุบันของโรงแรม
- ตรวจสอบว่าโรงแรมมีนโยบายหรือแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนในเรื่องใดแล้วบ้าง และมีการประเมินความเสี่ยงด้านใด เช่น การจัดการขยะ การใช้พลังงาน การจ้างงานในท้องถิ่น การวางแผนรับมือภัยพิบัติ ฯลฯ
- ศึกษามาตรฐานความยั่งยืนหรือการรับรองระดับสากล เช่น GSTC Industry Criteria หรือมาตรฐานภายในประเทศ เช่น Green Hotel Plus เพื่อดู “ช่องว่าง” ที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน
3. วางระบบและกำหนดนโยบายที่ชัดเจน
- พัฒนานโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ให้ครอบคลุมทุกมิติ เช่น นโยบายการจัดการน้ำและพลังงาน นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน และความเท่าเทียม นโยบายส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน และการประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจ
- กำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด (KPI) และผู้รับผิดชอบอย่างเป็นระบบ (PDCA) ที่สามารถติดตาม วัดผล และตรวจสอบได้
4. ลงมือปฏิบัติจริง และสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- เริ่มดำเนินการจริงในระดับปฏิบัติการ เช่น เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED, เลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว, ให้การอบรมพนักงานเรื่องความยั่งยืน, จ้างงานจากชุมชนโดยรอบ
- สื่อสารและสร้างความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ ชุมชน และนักท่องเที่ยวอย่างโปร่งใส รวมถึงสื่อสารวิธีการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

5. ยื่นขอการรับรอง และแสดงจุดยืนที่ชัดเจนแก่ผู้เข้าพัก
- ยื่นขอการรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น GSTC (มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล) หรือ Green Hotel Plus (มาตรฐานภายในประเทศที่มีแนวทางสอดคล้องกับ GSTC)
- ใช้สัญลักษณ์การรับรองอย่างถูกต้องในช่องทางการขายและการตลาด (OTA, เว็บไซต์, โบรชัวร์) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงตลาดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
หากโรงแรมของคุณกำลังมองหาแนวทางเริ่มต้นสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ ทีมงาน Carbonwize ยินดีให้คำแนะนำ และให้บริการเครื่องมือสำหรับการประเมินความพร้อมของโรงแรมด้วยแพลตฟอร์ม Sustainwize ที่จะช่วยให้โรงแรมของคุณสามารถกำหนดเป้าหมาย ติดตามและวัดผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน พร้อมเข้าสู่กระบวนการขอการรับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืน อย่างเช่น GSTC อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
ติดต่อเราวันนี้! พร้อมทดลองใช้แพลตฟอร์มฟรี 3 เดือน
Email: info@sustainwize.io
ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, The Nation